Be Traveler : จุดชมวิวทะเลหมอกหยุนไหล (อ.ปาย)

สวัสดีนักเดินทาง

วันนี้จะพาไปเที่ยวทะเลหมอกหยุนไหล

จุดชมวิวทะเลหมอกหยุนไหล ที่หมู่บ้านสันติชล  อำเภอปาย จังหวัดแม่ฮ่องสอน  ห่างจากหมู่บ้านสันติชล ประมาณ  1.6  กิโลเมตร เป็นจุดชมทะเลหมอกและพระอาทิตย์ขึ้นที่สวยงามของอำเภอปาย สามารถมองเห็นทะเลหมอกที่ถูกรายล้อมไปด้วยทิวเขาน้อยใหญ่ และทัศนียภาพบ้านเรือนของเมืองปายที่ถูกปกคลุมด้วยสายหมอก  คำว่าหยุนไหล เป็นภาษาจีนกลาง หมายถึง แหล่งที่เมฆไหลมารวมกัน ซึ่งเปรียบเสมือนคนจีนยูนานที่อพยพมาจากเมืองจีน แต่ในที่สุดก็อพยพย้ายถิ่นฐานมารวมกัน จุดชมทะเลหมอกหยุนไหล สามารถชมได้ทั้งฤดูฝนและฤดูหนาว  กิจกรรมยอดฮิต จิบชาร้อนพร้อมชมวิวไป ฟินลืม…

DSCF2399.jpg

การเดินทางมา จะต้องขึ้นรถเพื่อขึ้นมายังจุดชมวิวที่ ลานจอดรถ..หมู่บ้านสันติชล ก็จะมีรถกระบะบริการจอดรออยู่ เวลาที่ควรมาถึง 05.30 เพื่อให้ทันพระอาทิตย์ขึ้น…

เวลา 05.30 มาถึงบนนี้ ก็สั่งข้าวต้มมากินกันเลย ทั้งที่ยังมืดๆ กางขาตั้งกล้อง จองพื้นที่ ทนความหนาวเพื่อรอทักทายแสงอาทิตย์และสายหมอก

DSCF3208.JPG

DSCF3233.JPG

DSCF3243.JPG

DSCF3209.JPG

DSCF3214.JPG

DSCF3224.JPG

มองเห็นแสงไฟ ของอำเภอปาย ด้านล่าง ….. ใกล้เช้าแล้วนะ ตื่น.. 55+

DSCF3262.JPG

DSCF3268.JPG

DSCF3275.JPG

DSCF3273.JPG

DSCF3294.JPG

DSCF3299.JPG

DSCF3303.JPG

DSCF3313.JPG

DSCF2361.jpg

DSCF2372.jpg

DSCF2385.jpg

DSCF3337.JPG

ขาตั้งกล้องช่วยสร้างความกุ๊กกิ๊กให้สามีภรรยาได้ 55+

DSCF3345.JPG

DSCF3350.JPG

DSCF3353.JPG

ลาน จุดชมวิวหยุนไหล กับบรรดานักท่องเที่ยว มาชมความสวยงามของธรรมชาติ …

DSCF3357.JPG

DSCF3354.JPG

DSCF2391.jpg

ส่วนบ้านดินที่ตั้งอยู่ด้านหลังของจุดชมวิวเป็นจุดที่ขายของที่ระลึก และอาหารเช้าเป็น หมั่นโถว ซาลาเปาทอด ชาร้อน และข้าวต้ม

DSCF2395.jpg

DSCF2396.jpg

DSCF2390.jpg

จิบชาร้อน นั่งรับบรรยากาศที่สวยงามของธรรมชาติ แล้วพูดว่า ป่ะ พรุ่งนี้วันจันทร์ 55+

ลงจาก จุดชมวิวทะเลหมอกหยุนไหล ก็มาแวะ วัดน้ำฮูเป็นวัดที่เก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งของเมืองปาย ท่ามกลางหมอกที่ยังลงหนา ได้บรรยากาศมาก

DSCF2400.jpg

DSCF2402.jpg

วัดน้ำฮู มีความเป็นมาที่ยาวนานมาควบคู่กับเมืองปาย หรือเมืองป้าย (ชื่อเดิมที่เรียกกัน) โดยเป็นที่ประดิษฐานของพระพ่ออุ่นเมือง ที่อยู่คู่มากับวัดน้ำฮูที่ทุกคนสักการะนับถือ เป็นพระพุทธรูปสิงห์สาม ปางมารวิชัยหล่อด้วยทองสัมฤทธิ์ หน้าตักกว้าง 24นิ้ว สูง 30นิ้ว ส่วนพระเศียรกลวงมีพระเมาฬีครอบ ไม่มีประวัติบันทึกการสร้างอย่างชัดเจน แต่สันนิษฐานว่าสร้างในสมัยสมเด็จพระนเรศวรมหาราช พร้อมกับสถูปเจดีย์ซึ่งอยู่หลังวิหาร ได้รกร้างอยู่เป็นเวลานาน ในปี พ.ศ. 2468

“วัดน้ำฮู” (ฮู หมายถึง รู มีน้ำไหลออกมาจากรู) โดยทางวัดน้ำฮูจะนำน้ำที่ได้จากเศียรหลวงพ่ออุ่นเมืองนำมาผสมกับน้ำ มาบูชาเพื่อเป็นสิริมงคล

DSCF2404.jpg

DSCF2403.jpg
DSCF2401.jpg

ผู้ใหญ่ทอน และ นายเห็งพงษ์พงษ์คำเต็ม พร้อมด้วยชาวบ้านน้ำฮู ได้สร้างศาลาประดิษฐานพระพุทธรูปซึ่งอยู่โคนไม้พร้อมด้วยซากปรักหักพังของเจดีย์ และในปี พ.ศ.2474 ครูบาศรีวิชัยนักบุญล้านนาไทย ได้นำคณะศิษยานุศิษย์เดินธุดงค์มายังอำเภอปาย ได้เห็นสภาพทรุดโทรมของวัดและพบพระพุทธรูปดังกล่าว จึงได้สร้างวิหารขึ้นหนึ่งหลังสำหรับประดิษฐานพระพุทธรูป พร้อมกับสร้างเจดีย์ขึ้นด้านหลังวิหาร 1 องค์
เรื่องราวของหลวงพ่ออุ่นเมืององค์นี้เต็มไปด้วยความศักดิ์สิทธิ์ โดยมีเรื่องเล่าว่า เมื่อ ปี พ.ศ.2515 มีพระธุดงค์จากต่างจังหวัดมาพักที่วัด ได้สังเกตเห็นพระพักตร์ของพระพุทธรูปเป็นโพรงพระโมฬีถอดได้ และในโพรงนั้นมีน้ำขังอยู่เต็ม จึงสอบถามชาวบ้านและเจ้าอาวาส ก็ไม่มีใครทราบมาก่อน เรื่องนี้เป็นที่เล่าลือกันอยู่พักหนึ่ง แต่ไม่มีใครกล้าพิสูจน์ความจริง จนในปี พ.ศ.2516ร.อ.ประเสริฐ เรียมศรี นายอำเภอปาย พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการอำเภอปาย ได้ร่วมทำการอธิษฐานของพิสูจน์ข้อเท็จจริง โดยความร่วมมือจากเจ้าอาวาสและศรัทธาได้ตักน้ำออกจากพระเศียรทั้งหมด และใช้สำลีเช็ดจนแห้งสนิท ทำการปิดพระเศียรผูกเชือกประทับตราครั่ง ปิดหน้าต่าง ประตูทุกบาน ห้ามคนเข้าออกกำหนดเวลา 5 วัน เมื่อครบกำหนดได้ทำการเปิดต่อหน้าคณะทำการพิสูจน์ชุดเดิม ผลปรากฏว่ากลับมีน้ำขังอยู่ในเศียรของพระพุทธรูป ซึ่งเป็นเรื่องน่าอัศจรรย์ยิ่ง นับแต่นั้นมาก็มีประชาชนทุกสารทิศได้เข้ามากราบไหว้หลวงพ่ออุ่นเมืองอยู่เสมอ
จบทริปเมืองปาย … สั้นๆ แต่ประทับใจ
ที่พักริมแม่น้ำปาย …. รีวิวเผื่อเป็นตัวเลือก
ขอบคุณสำหรับการติดตาม