Be Traveler : คิดถึงเธอ..เชี่ยวหลาน

สวัสดีนักเดินทาง

วันนี้พวกเรา Be Traveler นำทีมมิตรรักแฟนเพลงของพวกเราเดินทางสู่ เขาสก หรือ เขื่อนรัชชประภา (เขื่อนเชี่ยวหลาน) จังหวัดสุราฎร์ธานี ตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติเขาสก โดยพวกเราเดินทางโดยเครื่องบิน กรุงเทพ – สุราฎร์ธานี แล้วเช่ารถตู้จากสนามบินมาที่ ท่าเรือเทศบาลเขื่อนเชี่ยวหลาน … ก่่อนเข้าท่าเรือก็แวะชมภาพสันเขื่อนก่อน เป็นน้ำจิ้มๆ

DSCF0693.jpg

เขื่อนรัชชประภา มีชื่อเรียกดั้งเดิมว่า เขื่อนเชี่ยวหลาน เป็นเขื่อนอเนกประสงค์แห่งที่สองของภาคใต้ อยู่ในจังหวัดสุราษฎร์ธานี เมื่อก่อนสร้างแล้วเสร็จได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช พระราชทานนามให้ใหม่ว่า “เขื่อนรัชชประภา” มีความหมายว่า “แสงสว่างแห่งราชอาณาจักร” ซึ่งเขื่อนเชี่ยวหลานเป็นเขื่อนที่ก่อสร้างขึ้นมาตามแผนพัฒนาเศรษฐกิจ และสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 4 เพื่อช่วยอำนวยประโยชน์ในด้านสังคม เศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติโดยใช้ประโยชน์ทั้งในด้านการชลประทานและการผลิตกระแสไฟฟ้า

นอกจากนี้ยังเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ได้รับฉายาว่าเป็นกุ้ยหลินเมืองไทย เพราะมีความสวยงามของเทือกเขาหินปูนที่เหมือนกันกับกุ้ยหลินที่ประเทศจีน

บริเวณสันเขื่อน ถือว่าเปิดตัวได้ดีทีเดียว….

DSCF0690.jpg

DSCF0716.jpg

DSCF0719.jpg

DSCF0735.jpg

นั่งรถไปต่อกันที่  ท่าเรือเทศบาลเขื่อนเชี่ยวหลาน  เพื่อไปขึ้นเรือของที่พัก.. แพสายชล (แพราคาดี คิดเป็น Package ต่อคน 3 วัน 2 คืน ที่พัก+อาหารเช้ากลางวันเย็น+พาเที่ยวถ้ำ) สนใจติดต่อ  แพสายชล

DSCF0736.jpg

DSCF0780.jpg

ระหว่างทางนั้น ….. สุดจะบรรยาย ท้องฟ้าว่าสีสดแล้ว ยังสู้สีของน้ำไม่ได้ ….

DSCF0799DSCF0809DSCF0817DSCF0756.jpgDSCF0782DSCF0784DSCF0792

แพสายชลจากระยะทาง และสายตาที่นั่งเรือผ่านที่พักหลายที่นั้น ก็ประเมินโดยส่วนตัวว่าอยู่ลึกพอสมควร ซึ่งจะเป็นส่วนตัวและทำให้เราได้สัมผัสธรรมชาติได้อย่างเต็มที่ และก็ต้องแลกมาด้วย การไร้ซึ่งสัญญาณโทรศัพท์ 555+ ก็เรามาพักผ่อน มาโดดน้ำ สมาชิกมัวแต่มากดแชทๆ ก็ไม่โอเค๊เนอะ ดังนั้น ไม่เรียกว่าเป็นข้อเสียเนอะ…

ปล. สัญญาณอ่ะมีแต่ต้องพายเรือออกมาหาเอง 555+

ถึงแล้ว…. แพสายชล (บ้านพักเราอยู่ด้านขวาสุด 3 หลังสุดท้ายติดกับบ้านหลังใหญ่สีขาว)

DSCF0826.jpg

DSCF0836.jpg

DSCF0829.jpg

DSCF0850.jpg

จากนั้น ความสนุกก็เกิดขึ้น ….. ไม่มีรูปภาพประกอบนะจ๊ะ อยากเห็น เก็บกระเป๋ามากันเองนะ…55+

ขอตัดภาพมายามเช้าของวันที่ 2 ณ.แพสายชล กับบรรยากาศของสายหมอกที่มาต้อนรับเรา

DSCF1166.jpg

DSCF0842.jpg

DSCF0843.jpg

DSCF0847.jpg

DSCF0845.jpg

DSCF0857.jpg

DSCF0869.jpg

DSCF0860.jpg

กินข้าวเช้า… แล้วคนขับเรือประจำเรือของเราก็พาไปนั่งเรือออกไปชมหมอก…. โอ้ บรรยากาศคือดีย์

DSCF1173.jpg

DSCF0874.jpg

DSCF0908.jpg

หยุดเรือ ตรงไหน ตะโกนบอกตามอัธยาศัย …. แชะไปเลย รอได้ ชิวมากกก

DSCF0880.jpg

DSCF0881.jpg

DSCF0918.jpg

DSCF0922.jpg

DSCF0928.jpg

DSCF0938.jpg

DSCF0934.jpg

กลับมาที่พัก พักผ่อนตามอัธยาศัย ก็ต้องขอตัดภาพ ขอตัวไปโดดน้ำนะจ๊ะ….

พอบ่ายออกไปพบกับภูเขาหินปูนที่เป็นไฮไลต์ที่ห้ามพลาดชมเด็ดขาดก็มี “เขาสามเกลอ” เป็นยอดเขาเล็กๆ 3 ยอดโผล่พ้นน้ำขึ้นมา ถือว่าเป็นจุดยอดนิยมที่นักท่องเที่ยวต้องมาถ่ายรูปคู่ด้วย จนกลายเป็นสัญลักษณ์ของเขื่อนรัชชประภาแห่งนี้ และที่ใกล้ๆ กับเขาสามเกลอเป็นที่ตั้งของ “เขาอินเดียนแดง” ตั้งชื่อตามลักษณะรูปลักษณ์ที่ดูคล้ายอินเดียนแดง ซึ่งต้องใส่จินตนาการในการดู แล้วยังมี “หน้าผาหญิงสาว” เป็นภูเขาหินปูนขนาดใหญ่ ที่มีร่องรอยตามธรรมชาติปรากฏ ให้เห็นเป็นรูปภาพคล้ายหญิงสาว 2 คน อยู่บนหน้าผา ที่ก็ต้องใช้จินตนาการของแต่ละคนในการมอง

DSCF0961.jpg

DSCF0972.jpg

DSCF0976.jpg

DSCF0998.jpg

DSCF1053.jpg

DSCF1039.jpg

DSCF1057.jpg

เขาสามเกลอ กับเธอ…. นางแบบสุดน่ารักของพ่อบ้านและแม่บ้าน

DSCF1014.jpg

DSCF1049.jpg

สมาชิกรอบนี้ …. คือทีมงานของ Be Traveler

DSCF1015.jpg

เรือก็ลัดเลาะไปตามซอกระหว่างยอดเขาที่โผล่ขึ้นมา นักท่องเที่ยวอย่างพวกเราก็ฟังไกด์ส่วนตัวที่ทำหน้าที่ขับเรือด้วยอย่างตั้งใจ และจินตนาการเพราะพี่เขาบอกว่ามันเป็นศิลปะที่ให้จะมองยังไง …

อ่ะศิลปะตก ทำไงล่ะที่นี้ 555 อ่ะโชว์คนขับเรือสุดหล่อหน่อย …

DSCF1016.jpg

จากนั้นเดินทางกลับที่พักเพื่อเตรียมตัวไปเดินป่า นั่งแพเปียก ปีนเขา ชมถ้ำกัน ….

DSCF1095.jpg

DSCF1096.jpg

เดินไกลไหม …. จำไม่ได้ บอกไม่ถูก แต่รู้ว่าหอบ 55+ โดยอธิบายนิด คือคนเรือจะพาเราไปส่งที่ตีนเขาฝั่งหนึ่ง ให้เราเดินข้ามไปอีกฝั่งหนึ่งเพื่อไปขึ้นแพเปียกเพื่อล่องไปที่ถ้ำ หรือที่คนที่นี้เขาเรียกกันว่า การเดินป่าข้ามเนินเขา 1.5 กม. และแพเปียกที่แม่บ้านเรียกคือการล่องแพไม้ไผ่ ไปเดินป่าที่ถ้ำน้ำทะลุ ระยะทางกว่า 700 ม. อ่ะตามนี้ ชมภาพกัน…

ท่าเรือ หรือ เรียกท่าแพดี 55+

DSCF1099.jpg

DSCF1100.jpg

DSCF1101.jpg

แพที่นั่ง ก็ ไม่ตามสุภาษิตนะจ้าาา มือไม่พาย ที่นี้เขาให้เขาเท้าลาน้ำได้ 555+

DSCF1160.jpg

DSCF1103.jpg

จะนั่ง จะยืน นางแบบจะโพสกี่ท่า ก็จัดไปจ้าาาา จากนั้นก็ปีนขึ้นถ้ำกัน ถ้ำน้ำทะลุ

DSCF1159.jpg

บรรยากาศภายในถ้ำก็มีคนนำทาง คอยอธิบายรูปทรงของหินงอกหินย้อยภายในถ้ำ พวกเราก็เก็บภาพบรรยากาศมาให้ชมเนอะ

DSCF1122.jpg

DSCF1124.jpg

DSCF1126.jpg

DSCF1131.jpg

DSCF1134.jpg

DSCF1139.jpg

DSCF1140.jpg

DSCF1142.jpg

DSCF1152.jpg

ออกจากถ้ำน้ำทะลุก็ล่องแพไม้ไผ่กลับไปที่ท่าแพอีกครั้ง แล้วเดินข้ามเขาไปขึ้นเรือกลับที่พัก

DSCF1163.jpg

เช้าวันใหม่ วันสุดท้ายของทริป วันนี้หมอกสวยกว่าเมือวานอีก…

DSCF1166.jpg

DSCF1208.jpg

DSCF1210.jpg

DSCF1213.jpg

DSCF1214.jpg

DSCF1229.jpg

DSCF1233.jpg

ทริปนี้ถือว่าเป็นทริปที่ประทับใจที่สุดอีกทริป ใครที่อยากจะพักผ่อนกับคนที่คุณรัก พวกเราแนะนำที่นี้เลย ..

เป็นคนไทยลองมาเที่ยวที่นี้ดูสักครั้ง แล้วคุณจะรู้ว่า เมืองไทยนั้นสวยเสมอและตลอดกาล…

ขอบคุณสำหรับการติดตาม

Be Traveler